มือแม่ทำอย่างไรดี? นักกายภาพบำบัดสอน 8 ท่าลดอาการปวดข้อมือ

มือแม่ทำอย่างไรดี? นักกายภาพบำบัดสอน 8 ท่าลดอาการปวดข้อมือ

สารบัญ

  1. บทนำ
  2. มือแม่คืออะไร?
  3. กลุ่มเสี่ยงของมือแม่
  4. อาการของมือแม่
  5. วิธีทดสอบว่ามือแม่มีอาการหรือไม่?
  6. วิธีรักษามือแม่
  7. ท่าบริหารที่สามารถช่วยลดอาการของมือแม่
  8. สรุป
  9. Q&A

บทนำ

KUBETการใช้งานมือถือหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการปวดข้อมือได้เพิ่มขึ้นระยะหลังๆ ระวังนะคะ! อาจเป็นอาการที่เรียกว่า “มือแม่” หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเป็นปัญหาของคุณแม่ที่ต้องอุ้มลูก แต่ในความเป็นจริง ทุกคนที่ใช้ข้อมือบ่อยๆ อาจประสบปัญหานี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศ นักเรียน หรือคนที่ชอบทำงานฝีมือ การใช้ข้อมือซ้ำๆ นานๆ KUBETอาจทำให้เกิดความไม่สบายตัวได้

หัวข้อรายละเอียด
ชื่ออาการมือแม่ (De Quervain’s Tenosynovitis)
สาเหตุการใช้งานข้อมือซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง เช่น พิมพ์งาน จับเมาส์ อุ้มของ หรืออุ้มลูก
อาการที่พบปวดข้อมือด้านนิ้วโป้ง รู้สึกตึงหรือชาเวลาขยับ กำมือแล้วเจ็บ
กลุ่มเสี่ยงคุณแม่ที่อุ้มลูกบ่อย พนักงานออฟฟิศ นักเรียนที่ใช้มือถือหรือแท็บเล็ตบ่อย ช่างฝีมือที่ใช้มือซ้ำ ๆ
การดูแลเบื้องต้นพักมือและข้อมือ ประคบเย็นเมื่อมีอาการบวม ใส่อุปกรณ์พยุงข้อมือ ทำกายภาพบำบัดหรือนวดคลายเส้น
ข้อแนะนำหลีกเลี่ยงการใช้มือท่าเดิมซ้ำ ๆ พักทุก 30-60 นาทีเมื่อใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือ

มือแม่คืออะไร?

 มือแม่ในทางการแพทย์มีชื่อว่า “โรคเอ็นข้อมือแคบ (Radial Stenosing Tenosynovitis)” อาการที่พบบ่อยคือปวดบวมที่บริเวณโคนของนิ้วหัวแม่มือ และไม่สามารถออกแรงได้ เมื่อโค้งนิ้วหัวแม่มือหรือข้อมือจะมีอาการปวดมากขึ้น และในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้เอ็นติดกัน KUBETทำให้การเคลื่อนไหวข้อมือยากขึ้น ถ้าอาการไม่รักษาอาจลามไปถึงนิ้วหัวแม่มือหรือแขนส่วนล่าง

กลุ่มเสี่ยงของมือแม่

  1. แม่บ้าน
    การทำงานบ้าน เช่น การซักผ้า, ทำอาหาร, ทำความสะอาด เป็นต้น จะต้องใช้ข้อมือเป็นเวลานานและทำให้ข้อมือมีภาระหนัก
  2. พนักงานออฟฟิศ
    การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ใช้เมาส์และคีย์บอร์ด KUBETทำให้ข้อมือเกิดความเมื่อยล้าได้ง่าย
  3. นักบัญชี
    การนับเงินเป็นเวลานานๆ หรือการเขียนบันทึก ก็สามารถทำให้กล้ามเนื้อมือเกิดอาการตึงเครียดและกลายเป็นมือแม่ได้
  4. พนักงานเสิร์ฟ
    การยกถาดอาหารหนักๆ หลายๆ ชั่วโมง KUBETทำให้ข้อมือได้รับภาระหนักและทำให้เกิดการบาดเจ็บ
  5. คนที่ใช้มือถือบ่อย
    การใช้มือถือเล่นต่างๆ นานๆ โดยไม่พักมักทำให้ข้อมือและนิ้วหัวแม่มือเมื่อยล้าเป็นอย่างมาก
  6. ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์
    ในช่วงตั้งครรภ์หรือหลังคลอดเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และการอุ้มทารก อาจทำให้เกิดอาการปวดข้อมือ

อาการของมือแม่

  • ข้อมือที่ด้านนิ้วหัวแม่มือจะรู้สึกตึง ปวด และมีอาการแสบร้อน
  • การทำซ้ำๆ เช่นการจับสิ่งของ หรือบิดผ้าจะทำให้ปวดมากขึ้น
  • การบวมอาจกดทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการชาได้

วิธีทดสอบว่ามือแม่มีอาการหรือไม่?

 Finkelstein’s Test เป็นการทดสอบง่ายๆ KUBETที่สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้:

  1. งอหัวแม่มือไปในทิศทางของฝ่ามือ
  2. ใช้นิ้วมืออีกมือปิดหัวแม่มือ
  3. งอข้อมือไปทางทิศทางของนิ้วก้อย ถ้าทำแล้วรู้สึกเจ็บที่ข้อมือด้านนิ้วหัวแม่มือ KUBET ก็มีโอกาสที่จะเป็นอาการของมือแม่ ควรไปหาการรักษาโดยเร็ว

วิธีรักษามือแม่

  1. กายภาพบำบัด
    นักกายภาพบำบัดจะตรวจสอบการใช้ข้อมือในชีวิตประจำวันและช่วยปรับการใช้งานเพื่อลดภาระ และใช้การนวดเชิงลึกเพื่อลดอาการปวด นอกจากนี้การฝึกกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ KUBETก็สามารถช่วยลดภาระที่ข้อมือได้
  2. การผ่าตัด
    หากการรักษาด้วยกายภาพบำบัดไม่สามารถบรรเทาอาการได้ และอาการรุนแรง อาจต้องทำการผ่าตัด โดยการตรวจดูหุ้มเอ็นข้อมือและเปิดออกเพื่อปลดปล่อยความกดดันให้เอ็นข้อมือสามารถเคลื่อนไหวได้ KUBET หลังการผ่าตัดก็ต้องมีการทำกายภาพบำบัดเพื่อเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำ

ท่าบริหารที่สามารถช่วยลดอาการของมือแม่

  1. นวดลึกที่เอ็นหัวแม่มือ
    ใช้มืออีกข้างนวดบริเวณเอ็นหัวแม่มือในทิศทางขวาง และทำประมาณ 30 วินาที
  2. การออกกำลังกายสำหรับนิ้วมือ
    ทำการหุบและเปิดนิ้วมือไปมา ประมาณ 30-60 ครั้งต่อวัน โดยไม่ทำให้เจ็บ
  3. การฝึกเกร็งกล้ามเนื้อหัวแม่มือ
    ใช้มืออีกข้างดันหัวแม่มือให้ต้านทานเล็กน้อย โดยเกร็งประมาณ 10 วินาที ทำประมาณ 30 ครั้งต่อวัน
  4. การยกข้อมือแบบเหวี่ยง
    ใช้ยางยืดจับไว้แล้วค่อยๆ ยืดข้อมือไปข้างล่าง แล้วใช้อีกมือดันให้กลับตำแหน่งเดิม ทำประมาณ 30 ครั้งต่อวัน
  5. การออกกำลังกายเพื่อฝึกแรงต้านนิ้วหัวแม่มือ
    ใช้ยางยืดพันนิ้วมือแล้วดันด้วยนิ้วหัวแม่มือ ทำประมาณ 30 ครั้งต่อวัน
  6. การออกกำลังกายข้อมือ
    ใช้น้ำหนักเบาหรือยางยืด ทำข้อมือขึ้นลงหรือหมุนข้อมือไปมา ทำประมาณ 30 ครั้งต่อวัน
  7. การจับบอลไปมา
    จับลูกบอลขนาดเท่าลูกเทนนิสแล้วทำการจับและปล่อยอย่างรวดเร็ว ทำประมาณ 3-5 ชุดต่อวัน
  8. การฝึกเพิ่มน้ำหนักเพื่อฝึกกล้ามเนื้อส่วนบน
    หากอาการดีขึ้น สามารถเพิ่มการฝึกที่มีน้ำหนัก เช่น การฝึกยกน้ำหนักที่ข้อมือ หรือการทำ push-up แบบพิงผนัง

สรุป

 มือแม่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน การทำกิจกรรมซ้ำๆ KUBETอาจทำให้ข้อมือเกิดการบาดเจ็บได้ การรักษาด้วยกายภาพบำบัดและการฝึกฝนการใช้งานข้อมืออย่างถูกต้องสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ หากอาการรุนแรงควรหาการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันอาการลุกลาม

Q&A

ถาม: มือแม่คืออะไร?
ตอบ: มือแม่หรือ “โรคเอ็นข้อมือแคบ (Radial Stenosing Tenosynovitis)” คืออาการปวดบวมที่บริเวณโคนของนิ้วหัวแม่มือ ซึ่งเกิดจากการใช้งานข้อมือซ้ำๆ ทำให้เกิดการอักเสบและบวมที่เอ็นข้อมือ ส่งผลให้การเคลื่อนไหวข้อมือและนิ้วหัวแม่มือเจ็บปวดมากขึ้น

ถาม: อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการมือแม่?
ตอบ: การใช้งานข้อมือบ่อยๆ เช่น การทำงานที่ต้องใช้ข้อมือมากๆ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์, มือถือ, ทำงานฝีมือ หรือการทำงานบ้านที่ต้องใช้งานข้อมือเป็นเวลานาน ๆ สามารถทำให้เกิดอาการมือแม่ได้

ถาม: วิธีทดสอบว่าเป็นมือแม่หรือไม่?
ตอบ: สามารถทดสอบโดยใช้ “Finkelstein’s Test” โดยงอหัวแม่มือเข้าหาฝ่ามือ แล้วใช้นิ้วมือปิดหัวแม่มือ จากนั้นงอข้อมือไปทางทิศทางของนิ้วก้อย หากมีอาการปวดที่ข้อมือด้านนิ้วหัวแม่มือ อาจเป็นอาการของมือแม่

ถาม: วิธีรักษามือแม่มีอะไรบ้าง?
ตอบ: การรักษามือแม่สามารถทำได้โดยการทำกายภาพบำบัด เช่น การนวดลึกที่เอ็นหัวแม่มือ การออกกำลังกายข้อมือ และการฝึกกล้ามเนื้อที่ใช้ข้อมือ หากอาการไม่ดีขึ้น อาจต้องพิจารณาการผ่าตัดเพื่อปลดปล่อยความกดดันที่เอ็นข้อมือ

ถาม: มีท่าบริหารอะไรบ้างที่ช่วยลดอาการของมือแม่?
ตอบ: ท่าบริหารที่ช่วยลดอาการมือแม่ เช่น การนวดลึกที่เอ็นหัวแม่มือ, การฝึกเกร็งกล้ามเนื้อหัวแม่มือ, การออกกำลังกายข้อมือ เช่น การหมุนข้อมือหรือการยกข้อมือขึ้นลง หรือการฝึกเพิ่มน้ำหนักเพื่อฝึกกล้ามเนื้อส่วนบน



เนื้อหาที่น่าสนใจ: