โกจิเบอร์รี่ ประโยชน์มาก! ช่วยบำรุงตับ บำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกัน แต่ต้องระวัง 3 ข้อห้าม

โกจิเบอร์รี่ ประโยชน์มาก! ช่วยบำรุงตับ บำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกัน แต่ต้องระวัง 3 ข้อห้าม

สารบัญ

  1. บทนำ
  2. ประโยชน์หลักของโกจิเบอร์รี่
  3. 3 ข้อห้ามในการทานโกจิเบอร์รี่
  4. วิธีการทานโกจิเบอร์รี่: สูตรเครื่องดื่มและเมนูอาหารที่แนะนำ
  5. สรุป: ควรทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ

บทนำ

โกจิเบอร์รี่ (Goji berries) เป็นวัตถุดิบขนาดเล็ก KUBETแต่มีประโยชน์ทางสุขภาพมากมาย ตั้งแต่การบำรุงตับ บำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกัน ไปจนถึงการต้านความชรา โกจิเบอร์รี่ได้รับความนิยมในแง่ของการบำรุงร่างกายในแพทย์แผนจีนมาตั้งแต่โบราณ ไม่ว่าจะนำไปชงชา ใช้ในอาหาร หรือทำซุป โกจิเบอร์รี่ก็สามารถเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับมื้ออาหารได้ อย่างไรก็ตาม KUBET มีข้อห้ามบางประการที่ต้องระวังเมื่อทานโกจิเบอร์รี่เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย

ประโยชน์หลักของโกจิเบอร์รี่

  1. บำรุงตับและไต บำรุงสายตาและเลือด ตามทฤษฎีแพทย์แผนจีน โกจิเบอร์รี่มีสรรพคุณเย็นและมีรสหวาน ช่วยบำรุงตับและไต ใช้ในการรักษาอาการเช่น ปวดเอว เลือดออกผิดปกติ เวียนศีรษะ มองเห็นไม่ชัด หรือกระหายน้ำและผอมแห้ง เป็นต้น การทานโกจิเบอร์รี่จะช่วยบำรุงตับและไต รวมถึงช่วยเพิ่มความสดใสให้กับดวงตา
  2. เสริมภูมิคุ้มกัน โกจิเบอร์รี่มีวิตามินซี วิตามินอี และกรดอะมิโนหลายชนิด ซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงขึ้น KUBET ทำให้โกจิเบอร์รี่มีผลดีในการป้องกันเชื้อโรคที่เข้ามารบกวน
  3. ส่งเสริมการผลิตเลือด โกจิเบอร์รี่มีคุณสมบัติในการส่งเสริมการเพิ่มจำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้สามารถเสริมสร้างความสามารถในการผลิตเลือดได้ดีขึ้น KUBETซึ่งทำให้โกจิเบอร์รี่เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับการปรับสมดุลเลือดและเสริมภูมิคุ้มกัน
  4. ต้านความชรา สาร “โกจิเบอร์รี่พอลิแซคคาไรด์” ที่มีอยู่ในโกจิเบอร์รี่ถูกมองว่าเป็นสารสำคัญที่ช่วยชะลอความชรา สารนี้ช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้า ความเสื่อมของสมอง และอาการมองเห็นไม่ชัดที่มักเกิดในผู้สูงอายุ ตามที่บันทึกไว้ใน “เบนเฉาฉางมู่” โกจิเบอร์รี่มีสรรพคุณในการบำรุงกระดูกและกล้ามเนื้อ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ไม่แก่เร็ว และKUBETช่วยให้สุขภาพผิวพรรณดีขึ้น
  5. ต้านเซลล์มะเร็ง โกจิเบอร์รี่มีฤทธิ์ยับยั้งการเกิดและขยายตัวของเซลล์มะเร็ง โดยสารพอลิแซคคาไรด์ในโกจิเบอร์รี่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันและการผลิตเซลล์สารพิษที่ช่วยป้องกันมะเร็ง อย่างไรก็ตาม KUBETการใช้โกจิเบอร์รี่ในกรณีต้านมะเร็งควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์แผนจีนที่มีความเชี่ยวชาญ
  6. บำรุงตับ การวิจัยในปัจจุบันพบว่า โกจิเบอร์รี่มีสารบีเทอีนและพอลิแซคคาไรด์ ซึ่งช่วยยับยั้งการสะสมของไขมันในเซลล์ตับและส่งเสริมการฟื้นฟูเซลล์ตับ KUBET ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลในร่างกาย ทำให้โกจิเบอร์รี่เป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการบำรุงตับ
  7. ลดระดับน้ำตาลในเลือด โกจิเบอร์รี่มีผลช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคเบาหวานในระยะเบา อย่างไรก็ตาม โกจิเบอร์รี่มีน้ำตาลค่อนข้างสูง ผู้ป่วยเบาหวานควรระมัดระวังในการบริโภค KUBET ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ โดยแนะนำให้ทานไม่เกิน 20 กรัมต่อวัน และหากผู้ป่วยกำลังทานยาลดน้ำตาล ควรเว้นระยะเวลาในการทานโกจิเบอร์รี่และยาลดน้ำตาลอย่างน้อย 1 ชั่วโมง

3 ข้อห้ามในการทานโกจิเบอร์รี่

  1. ผู้หญิงตั้งครรภ์ควรระมัดระวัง การทานโกจิเบอร์รี่สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ควรระมัดระวัง เนื่องจากโกจิเบอร์รี่มีสารซีลีเนียมและบีเทอีน ที่อาจมีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ หากทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลเสียต่อลูกในท้อง โดยเฉพาะใบโกจิเบอร์รี่ที่มีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและอาจกระตุ้นการหดตัวของมดลูก KUBET ซึ่งอาจทำให้เกิดการแท้งหรือการคลอดก่อนกำหนด
  2. ช่วงเป็นไข้หวัดหรือมีไข้ ในช่วงที่เป็นไข้หวัดหรือมีไข้สูง ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานอย่างหนัก ซึ่งในแพทย์แผนจีนจะเรียกสภาวะนี้ว่า “อาการที่มีความร้อน” การทานอาหารที่มีฤทธิ์บำรุง เช่น โกจิเบอร์รี่ อาจทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น และอาการไข้แย่ลง ทำให้มีอาการเจ็บคอ หรือเสียงแหบ ควรหลีกเลี่ยงการทานโกจิเบอร์รี่ในช่วงนี้
  3. ท้องเสีย หากคุณมีปัญหาทางระบบย่อยอาหาร เช่น ท้องเสีย ควรหลีกเลี่ยงการทานโกจิเบอร์รี่ เพราะโกจิเบอร์รี่มีคุณสมบัติที่ค่อนข้างร้อน ซึ่งอาจเพิ่มความชื้นในร่างกาย ทำให้ปัญหาทางระบบย่อยอาหารแย่ลง

วิธีการทานโกจิเบอร์รี่: สูตรเครื่องดื่มและเมนูอาหารที่แนะนำ

ชาโกจิเบอร์รี่และดอกเบญจมาศ การผสมโกจิเบอร์รี่กับดอกเบญจมาศ ช่วยบำรุงตับและสายตาได้ดี เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับการดื่มทุกวัน ช่วยดูแลสายตาในระยะยาว

ส่วนผสม:

  • โกจิเบอร์รี่ 8 กรัม
  • ดอกเบญจมาศ 3 ดอก

วิธีทำ:

  1. นำโกจิเบอร์รี่และดอกเบญจมาศใส่ในถ้วย
  2. เติมน้ำร้อน 300 มิลลิลิตร แล้วปล่อยทิ้งไว้ 5 นาที จากนั้นดื่มได้ทันที ถ้าไม่มีดอกเบญจมาศก็สามารถใช้โกจิเบอร์รี่เพียงอย่างเดียวได้
  3. ผัดผักคะน้ากับโกจิเบอร์รี่ การเพิ่มโกจิเบอร์รี่ในผัดผักคะน้าช่วยเสริมประสิทธิภาพในการบำรุงตับและบำรุงสายตา

ส่วนผสม:

  • โกจิเบอร์รี่ 20 กรัม
  • ผักคะน้า 1 กำ
  • เกลือน้อย
  • กระเทียม 1 กลีบ (หั่นเป็นแผ่น)

วิธีทำ:

  1. ล้างผักคะน้าและโกจิเบอร์รี่ให้สะอาดแล้วพักไว้
  2. ใส่น้ำมันในกระทะร้อนแล้วใส่กระเทียมผัดจนหอม
  3. ใส่ผักคะน้าและโกจิเบอร์รี่ลงไปผัดจนสุก
  4. ใส่เกลือเล็กน้อยแล้วผัดให้เข้ากัน เสิร์ฟได้ทันที
  5. น้ำซุปไก่เห็ดหอม น้ำซุปนี้รวมคุณค่าของโกจิเบอร์รี่และโหระพา ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและบำรุงเลือด

ส่วนผสม:

  • เลือดแดง 3 ลูก
  • โกจิเบอร์รี่ 15 กรัม
  • เห็ดหอมแห้ง 5 ดอก
  • ขาไก่ใหญ่ 1 ขา (หั่นเป็นชิ้น)
  • ขิง 5 แผ่น
  • เกลือน้อย

วิธีทำ:

  1. ล้างโหระพา โกจิเบอร์รี่ และเห็ดหอมแห้งให้สะอาด
  2. นำขาไก่ลงในหม้อ ใส่น้ำ 600 มิลลิลิตร
  3. เติมขิง โหระพา โกจิเบอร์รี่ และเห็ดหอมลงไป
  4. ปิดฝาหม้อแล้วตั้งไฟจนเดือด จากนั้นลดไฟแล้วต้ม 10 นาที
  5. เพิ่มเกลือแล้วเสิร์ฟได้

สรุป: ควรทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ

แม้ว่าโกจิเบอร์รี่จะเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ KUBET แต่การทานในปริมาณที่เหมาะสมคือกุญแจสำคัญในการรักษาสุขภาพ ไม่ว่าจะทานในรูปแบบเครื่องดื่ม อาหาร หรือเป็นส่วนหนึ่งของยาบำรุงสุขภาพ ควรเลือกตามความเหมาะสมของร่างกาย และอย่าลืมว่าอาหารทุกชนิดทานมากเกินไปอาจมีผลข้างเคียงได้ ควรทานในปริมาณที่พอดีเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุด.



เนื้อหาที่น่าสนใจ: อาการท้องอืด ท้องเสีย อาจเกิดจาก “ความชื้นในร่างกายสูง” แพทย์แผนจีนแนะนำวิธีการปรับปรุง