สารบัญ
- บทนำ
- เดินคือยาวิเศษใกล้ตัว
- ประโยชน์ของการเดิน
- เดินวันละกี่ก้าวถึงจะได้ผล?
- เทคนิคเพิ่มจำนวนก้าวในชีวิตประจำวัน
- Q&A
บทนำ
การเดินไม่เพียงเป็นวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม KUBETแต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างมากอีกด้วย “การเดินเล่น” ถือเป็นกิจกรรมทางกายที่ง่ายที่สุด เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเพื่อรักษาข้อต่อให้แข็งแรง หรือแม้แต่ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิง KUBET บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจคุณประโยชน์ต่างๆ ของการเดิน ที่อาจทำให้คุณประหลาดใจ!
ประเภท | ประโยชน์ที่ได้รับ | คำอธิบาย |
---|---|---|
สุขภาพหัวใจ | ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด | การเดินเป็นประจำช่วยลดระดับความดันโลหิตและคอเลสเตอรอล |
ข้อต่อและกระดูก | ช่วยให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ดี | เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ เพราะไม่กระทบแรงมากเกินไปต่อข้อ |
ควบคุมน้ำหนัก | ช่วยเผาผลาญพลังงาน | เดินเร็ว 30 นาทีต่อวันสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้ |
สุขภาพจิต | ลดความเครียดและอาการซึมเศร้า | การเดินกลางแจ้งช่วยให้ผ่อนคลายและกระตุ้นสารเอ็นดอร์ฟิน |
ระบบย่อยอาหาร | กระตุ้นการทำงานของลำไส้ | การเดินหลังมื้ออาหารช่วยป้องกันอาการท้องอืดและท้องผูก |
ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง | ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม | จากงานวิจัยพบว่าผู้หญิงที่เดินเป็นประจำมีความเสี่ยงลดลง |
เพิ่มอายุขัย | ยืดอายุขัยโดยรวม | คนที่เดินอย่างสม่ำเสมอมีแนวโน้มมีสุขภาพดีกว่าในระยะยาว |
เดินคือยาวิเศษใกล้ตัว
ดร. Thomas Frieden อดีตผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) กล่าวว่า ถ้าคุณได้รับใบสั่งยาจากแพทย์ที่เขียนว่า “เดินวันละนิด” อย่าเพิ่งตกใจ KUBET เพราะการเดินคือกิจกรรมที่เริ่มทำตั้งแต่เด็ก และตอนนี้ถือเป็น “ยาวิเศษ” ที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายที่สุด

ประโยชน์ของการเดิน
1. ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม
จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและสมาคมโรคมะเร็งของสหรัฐฯ พบว่า KUBET ผู้หญิงที่เดินอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมน้อยกว่าผู้หญิงที่เดินไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ถึง 14% แม้ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงของโรคอยู่แล้วก็ยังได้ผลป้องกันเช่นกัน
2. ลดผลกระทบจากพันธุกรรมที่ส่งเสริมโรคอ้วน
นักวิจัยจากฮาร์วาร์ดศึกษายีนที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนในคนกว่า 12,000 คน และพบว่า KUBET การเดินเร็ววันละ 1 ชั่วโมงสามารถลดผลกระทบจากพันธุกรรมเหล่านี้ได้ถึง ครึ่งหนึ่ง
3. ช่วยลดความอยากของหวาน
การศึกษาจากมหาวิทยาลัย Exeter ประเทศอังกฤษ ระบุว่า การเดินเพียง 15 นาที สามารถลดความอยากกินช็อกโกแลตได้ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดความเครียด KUBET การเดินยังช่วยลดการบริโภคขนมหวานและของที่มีน้ำตาลสูงได้อย่างเห็นได้ชัด
4. บรรเทาอาการปวดข้อ
หลายงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า การเดินช่วยลดอาการปวดที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ และการเดินระยะทาง 5-6 ไมล์ (ประมาณ 8-10 กิโลเมตร) ต่อสัปดาห์ ยังช่วย ป้องกัน การเกิดโรคข้อเสื่อม KUBET โดยกลไกคือการหล่อลื่นข้อต่อและเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อรอบข้อเข่าและสะโพก
5. เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
ในช่วงฤดูที่มีไข้หวัดระบาด การเดินสามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ดี KUBET งานวิจัยหนึ่งที่ศึกษากลุ่มตัวอย่างกว่า 1,000 คนพบว่า ผู้ที่เดินวันละอย่างน้อย 20 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน มีโอกาสป่วยน้อยกว่าผู้ที่ออกกำลังกายน้อยกว่าหรือไม่ออกเลยถึง 43% และแม้จะป่วยก็จะมีอาการน้อยและหายเร็วกว่าด้วย
เดินวันละกี่ก้าวถึงจะได้ผล?
Melissa Darlow นักกำหนดอาหารและเทรนเนอร์ในนิวยอร์ก KUBET แนะนำว่าเป้าหมายที่เหมาะสมอยู่ที่ 7,000 – 10,000 ก้าวต่อวัน โดย 1 ไมล์ (ประมาณ 1.6 กม.) เท่ากับประมาณ 2,100 – 2,400 ก้าว ดังนั้นหากคุณเริ่มต้นจาก 2,000 ก้าวต่อวัน ให้ค่อยๆ ขยับเป้าหมายขึ้นก็เพียงพอแล้ว
เทคนิคเพิ่มจำนวนก้าวในชีวิตประจำวัน
สำหรับผู้ที่ต้องนั่งทำงานนานๆ หรือเคลื่อนไหวร่างกายน้อย KUBET ลองใช้วิธีเหล่านี้เพื่อเพิ่มจำนวนก้าวในแต่ละวัน:
- ลงจากรถสาธารณะก่อนถึงจุดหมาย 1 ป้ายแล้วเดินต่อ
- ขณะโทรศัพท์ ลองเดินไปรอบๆ (ที่โต๊ะทำงาน ลานจอดรถ หรือระหว่างพักเบรก)
- ใช้บันไดแทนลิฟต์
- ซื้อเครื่องเดินแบบพับเก็บได้ไว้ใช้ที่บ้าน
- ฟังพอดแคสต์หรือเพลงโปรดขณะเดิน เพื่อเพิ่มแรงจูงใจ
Q&A
1. การเดินช่วยลดความเสี่ยงโรคอะไรได้บ้าง?
การเดินอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงได้ถึง 14% และยังช่วยลดผลกระทบจากพันธุกรรมที่ส่งเสริมโรคอ้วนได้ด้วย
2. ทำไมการเดินถึงช่วยลดความอยากของหวานได้?
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Exeter พบว่าการเดินเพียง 15 นาทีสามารถลดความอยากกินช็อกโกแลตและขนมหวาน โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดความเครียดได้อย่างชัดเจน
3. การเดินมีผลดีอย่างไรต่อข้อต่อและโรคข้ออักเสบ?
การเดินช่วยลดอาการปวดข้อจากโรคข้ออักเสบและป้องกันโรคข้อเสื่อมโดยการหล่อลื่นข้อต่อและเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อรอบข้อเข่าและสะโพก
4. การเดินมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันอย่างไร?
การเดินวันละ 20 นาที อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสป่วย และทำให้อาการป่วยหายเร็วขึ้น
5. ควรเดินวันละกี่ก้าวจึงจะได้ผลดี และมีวิธีเพิ่มจำนวนก้าวในชีวิตประจำวันอย่างไร?
แนะนำให้เดินวันละ 7,000 – 10,000 ก้าว โดยเริ่มจาก 2,000 ก้าวแล้วค่อยเพิ่มขึ้น เทคนิคเพิ่มจำนวนก้าว เช่น ลงรถก่อนถึงจุดหมาย 1 ป้าย เดินไปรอบๆ ขณะโทรศัพท์ ใช้บันไดแทนลิฟต์ และฟังเพลงขณะเดินเพื่อเพิ่มแรงจูงใจ
เนื้อหาที่น่าสนใจ: